Return   ย้อนสอนชีวิต


Return   ย้อนสอนชีวิต เป็นหนังสือที่รวบรวมประสบการณ์จริงที่ผู้เขียนได้สัมผัสและได้ประสบด้วยตนเองแล้วนำประสบการณ์นั้นมาร้อยเรียงเป็นหนังสือ เพื่อใช้เตือนใจให้ผู้อ่านได้ข้อคิดและได้ทำความเข้าใจชีวิตที่ผ่านมาและทำให้เราได้เห็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้เดินหน้าต่อไป
ในหนังสือเล่มนี้จะประกอบด้วยเนื้อหาทั้งหมดด้วยกัน 33 เรื่องที่จะทำให้เราสามารถนำมาเป็นข้อคิดในการมองสิ่งต่างๆรอบตัวและข้อคิดในการดำเนินชีวิตซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ประกอบด้วย
1. บริหารเวลาชีวิต บนโลกใบนี้มีการบริหารวาระและจัดสรรช่วงเวลาให้กับทุกๆชีวิตไว้อย่างลงตัว ถ้ารู้จักบริหารจัดการเวลาให้เหมาะสมกับชีวิตในแต่ละจังหวะที่ควรจะเป็นไปอาจเป็นการต่ออายุ อารมณ์ ความคิด ความรู้สึกให้ยาวขึ้นไป
2. หกประการคือเครื่องกีดขวางทางชีวิต ซึ่งประกอบด้วย การตรึงจิตไว้กับอดีต การตรึงความคิดไว้กับความเศร้า การตรึงความรู้สึกไว้กับความเครียดแค้น การตรึงอารมณ์ให้อยู่กับความสิ้นหวัง การตรึงชีวิตไว้กับความเห็นแก่ตัวและการตรึงชีวิตให้อยู่แต่ในกะลา
3. อุปสรรคที่บดบังสายตา สาเหตุที่เป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าในชีวิตคือการใช้เวลาให้หมดไปกับการนั่งจับผิดสิ่งรอบๆตัว รวมถึงบุคคลอื่นๆด้วยจิตใจที่ชิงชัง ลำเอียงและมีอคติที่ไม่ถูกต้อง
4.ทาสวัตถุ เบื้องหลังของชีวิตซึ่งเป็นตัวถ่วงความเป็นอิสระแห่งตนคือความลุ่มหลงในวัตถุจนกลายเป็นทาส
5. โลกสองด้าน อย่าหวังอะไรจากโลกนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่เราคิดทุกอย่างทุกเรื่อง บางอย่างเราอาจเป็นผู้กำหนดโลก แต่บางครั้งโลกคือผู้กำหนดตัวเรา เราต้องเข้าใจโลกเพราะความเข้าใจทำให้เห็นจริงว่า โลกนี้มีเรื่องราวสองด้านเสมอ
6. จงยินดีกับชีวิตที่ถูกกำหนด ชีวิตอาจไม่ได้เป็นไปตามที่เราเลือกเสมอ บางที่สิ่งที่เราเลือกก็ไม่ได้เป็นจริงกับสิ่งที่เราหวังหรือสิ่งที่เราไม่เคยหวังกลับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตได้โดยไม่คาดคิดเหมือนกัน จงยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจมีบทบาทที่จะเข้ามากำหนดให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีที่สุดก็เป็นได้
7. กรรมติดตัว ผลติดตาม การกระทำจะส่งผลต่อชีวิตโดยตรงแต่การเลือกตัดสินใจคือด่านแรกที่จะส่งผลต่อไปและเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าเพราะถ้าเราเลือกผิดการกระทำก็จะผิดตามมาเช่นกัน ทุกอย่างในชีวิตย่อมเดินไปตามกรรมคือการกระทำที่เราตัดสินใจเลือกเองและทั้งหมดก็จะส่งผลและมีอิทธิพลไปตลอดชีวิต
 8. ใช้ความรู้ให้คุ้มค่า คุ้มราคาที่ลงทุนเรียนรู้ ความรู้ความสามารถที่มีอาจไร้คุณค่าหรือไร้ราคาถ้าตราบใดทียังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงทั้งต่อตนเองหรอคนอื่น
9.ฝ่าด่านแห่งชีวิต คุณค่าของสิ่งที่ได้รับหรือรางวัลชีวิตที่ได้มา อาจไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าสิ่งนั้นคืออะไรแต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเองหลังของการฝ่าฟันอย่างยากลำบากถึงจะได้มาครอบครองนั้นเป็นอย่างไร
10. สิทธิในการเลือกอนาคต ไม่มีใครสร้างอนาคตให้กับเราได้ดีไปกว่าการเลือกและสร้างอนาคตด้วยตัวของเราเอง
11. สร้างความสมดุลให้กับอุณหภูมิชีวิต การสร้างความสมดุลทางอารมณ์ส่งผลต่อเนื่องถึงพฤติกรรมชีวิต ถ้าปล่อยให้อารมณ์เอียงไปข้างใดข้างหนึ่งชีวิตก็จะเอียงไปตามอารมณ์นั้นๆ และเช่นเดียวกันเมื่อควบคุมอารมณ์ให้สมดุล อุณหภูมิชีวิตก็จะอยู่ในระดับที่พอดี
12. ต้นตอของการทำลายตัวเอง ทุกอย่างที่ย้อนกลับมาทำลายตัวของเราแท้จริงแล้ว เรานั่นแหละคือต้นตอที่สำคัญและเป็นต้นเหตุของจุดเริ่มต้นซึ่งจะนำพาความเจ็บปวดมาให้ชีวิตของตัวเอง
13. ถนนชีวิต ถนนชีวิต 2 สายคือเส้นทางที่ทุกคนต้องเดินผ่าน บางทีก็ง่าย บางทีก็ยากและบางครั้งก็ลำบาก แต่บางคราวก็สบาย ถ้าชีวิตมีแต่ความสบาย วันหนึ่งความสบายก็อาจย้อนกลับมาฆ่าเราได้ เวลาที่ต้องเผชิญความยากลำบากแห่งชีวิต
14. ความสุขเป็นของคนที่พร้อมจะทำดี การรอที่จะใช้ชีวิตพร้อมทุกด้านเสียก่อนที่จะกระทำสิ่งดีๆบางทีก็อาจจะสายเกินไป เพราะเมื่อถึงเวลาที่เราพร้อมก็อาจหมดเวลาที่จะทำสิ่งดีๆเสียแล้ว ดังนั้นจงพร้อมที่จะทำดีได้ทุกเมื่อ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เป้นคนดีพร้อมที่สุดเสียก่อน
15. แม้บางทีชีวิตไม่ได้พร้อมทุกด้าน ถ้าเราต้องการความสุขที่มั่นคงแท้จริงเพียงแค่ให้เรามีความพร้อมอยู่เสมอต่อการทำสิ่งที่ดีต่อคนอื่น แม้จะเป็นเพียงแค่รอยยิ้มบนใบหน้าก็แสดงถึงมิตรไมตรีที่ดีทั้งผู้รับและผู้ให้อย่างน้อยความสุขเล็กๆก็ปรากฏอยู่ในใจของคนสองคน
16. เหลือแต่ตอก็ยังไม่ตาย มีลมหายใจก็ยังไม่สาย โลกนี้มีคนมากมายที่ทำลายตัวเองไปเพราะความล้มเหลวที่เกิดขึ้นนั่นเพราะเขาปล่อยให้จิตใจล้มเหลวตามไปด้วย แต่ถ้าเมื่อไหร่ยังคงรักษาจิตใจไม่ให้พังทลายหรอล้มลงชีวิตที่ยังมีลมหายใจก็คงดำเนินไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างที่คาดหวัง

17. มาตรฐานชีวิตที่มีคุณค่า มาตรฐานชีวิตที่ชี้วัดถึงคุณค่าคือการใช้ชีวิตอย่างมีค่าและให้ผลแห่งชีวิตสะท้อนออกมาอย่างสร้างสรรค์ดีงาม ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใครก็ตาม
18. สมดุลคือความสมบูรณ์ การใช้ชีวิตในแต่ละยุคหรือแต่ละวัน จะต้องมีความสมดุล ยึดหลักอยู่กับความพอดีและสอดคล้องกับมาตรฐานที่เป็น แล้วความสมดุลจะสร้างให้ชีวิตเกิดความสมบูรณ์
19. จมอยู่กับความเสียใจคือการทำลายเวลาที่เสียไป วันที่ต้องเสียน้ำตาและต้องเศร้าเสียใจ อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ยอมทำหรือใส่ใจในสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
20. มุมมองที่มีคำตอบ การมองแบบตื้นๆจะทำให้เราเห็นแค่ภาพอุปสรรคเสมอ แต่ถ้าเรามองอย่างสร้างสรรค์ด้วยสติและปัญญา วันเวลาแห่งโอกาสจะเปิดให้เราเห็นภาพแห่งความจริง
21. อย่าวางใจในวัตถุภายนอก อย่าคิดว่าเรามั่นคงดีแล้วเพียงเพราะว่ามีฐานะที่ดีและอย่าไว้วางใจในสิ่งที่เรามีและสะสมมาเพราะว่าสิ่งที่เรามีคือสิ่งที่ไม่มีความแน่นอน วันนี้เราอาจมีแต่พรุ่งนี้อาจไม่เหลืออะไรเลยก็ได้
22. พัฒนาการแห่งชีวิต ปัญหาในชีวิตคือโจทย์เพื่อทดสอบพัฒนาการของเรา ถ้าเราฝึกตนให้พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าปัญหาหรืออุปสรรคใดๆก็ตามคงไม่ใช่เครื่องกีดขวางแต่กลับกลายเป็นบันไดให้เราก้าวขึ้นไป และถือเป็นพัฒนาการที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
23. พิสูจน์คำพูดด้วยการกระทำ อย่ารักกันแค่เพียงคำพูด แต่จงรักกันด้วยการกระทำเพราะการกระทำคือบทพิสูจน์ของคำพูด
24. ย้อนสอนตัวอง ก่อนจะสอนใครลองย้อนกลับมาสอนตัวเองก่อนจะดีกว่าว่ามีสิ่งใดที่เราห้ามไม่ให้กระทำ แล้วตัวของเราเองยังทำอยู่หรือเปล่า หรือสิ่งที่เราแนะนำให้ปฏิบัติ ตัวของเราเองปฏิบัติจริงจังแล้วหรือยัง
25. พิสูจน์ผลความจริงที่อยู่ภายใน การรอคอยและใช้เวลาพิสูจน์จนกว่าจะรู้และเห็นถึงผลข้างในก่อนนั้นคือหลักการที่ควรนำมาใช้ในการเลือกพิจารณาสำหรับทุกเรื่องในชีวิต แม้จะเสียเวลาไปบ้างกก็ดีกว่าเสียความรู้สึกที่ดีไป
26. ความงามที่ยั่งยืน ความงามภายนอกถูกจำกัดด้วยการเวลา นานๆก็เสื่อมสภาพ แต่ความงามภายใน (จิตใจ) ย่อมอยู่เหนือกาลเวลา
27. จงระวังศัตรูที่แอบแฝงในชีวิต ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดคือศัตรูที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดและนั่นก็คือการยอมตกเป็นทาสของอำนาจความคิดฝ่ายต่ำในชีวิตเพราะการตกเป็นทาสคือการยอมกระทำทุกสิ่งที่นายสั่งทุกเรื่อง
28. สำคัญเท่าเทียมและพร้อมเพรียงกัน การให้เกียรติและให้ความสำคัญแก่กันและกันอย่างเข้าใจนั้นก็เป็นปัจจัยเสริมให้ชีวิตพบความสำเร็จและมีความสุขร่วมกันที่สำคัญจะส่งผลให้ชีวิตเห็นความจริงข้อหนึ่งว่า ถ้าปราศจากคนอื่นๆที่จะมาช่วยเหลือกันแล้วล่ะก็ ก็คงไม่มีความสำเร็จในวันนี้สำหรับเรา
29. ชัยชนะที่พ่ายแพ้ ความสำเร็จที่ล้มเหลว ชัยชนะแห่งความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงชีวิตที่มั่งมีวัตถุทางกายภายนอกมากมาย หากแต่หมายถึงความดีงามที่สะสมอยู่ในจิตใจเป็นคะแนนของความสำเร็จเพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดจากการทำคุณความงามดีที่แท้จริง ไม่ใช่ชัยชนะหรือความสำเร็จหรือความดีที่เห็นอยู่เบื้องหน้าแต่กลับมีเบื้องหลังจากการทำชั่วหรือยืนอยู่บนความทุกข์ของคนอื่น
30. ส่งต่อน้ำใจ มากกว่าหน้าที่ของความมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้คือ การเป็นผู้รู้จักให้ นั่นเพราะที่ผ่านมาตั้งแต่แรกเริ่มเราคือผู้รับมาโดยตลอด ดังนั้นการมีชีวิตอยู่ร่วมกันจะต้องรู้จักแบ่งปันด้วยจิตสำนึกไม่ใช่เพราะถูกบังคับ
 31. ผลผลิตแห่งชีวิต ธรรมชาติได้สร้างทุกสิ่งอย่างมีเป้าหมาย แม้แต่ต้นไม้สักต้นก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้จากดอกผลของมัน เช่นเดียวกันชีวิตที่เกิดมาหาใช่อยู่แค่การเกิดมาอยู่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ต้องมีผลแห่งชีวิตเกิดขึ้นเพื่อให้คนอื่นๆได้รับประโยชน์ต่อไป
32. ยอมรับอย่างรู้เห็นเป็นจริง จงเปิดตายอมรับเพื่อจะมองเห็นความจริง จงเปิดใจยอมรับเพื่อสัมผัสถึงความจริง เพราะการยอมรับความจริงจะนำชีวิตสู่ความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง
33. จิตใจป่วย สังคมป่วย ถ้าความมั่งมีเกิดขึ้นมาเพื่อแลกกับความสูญเสียความสงบสุขในชีวิตไป เราคงเลือกเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแม้จะมีชีวิตอยู่เพียงแค่พอมีพอกิน
หากใครได้อ่านหนังสือเล่มนี้จนจบเล่มรับรองเลยว่าจะได้มุมมองความคิดและข้อคิดดีๆในการดำเนินชีวิตจากหนังสือเล่มนี้มากมายแน่นอน
ข้อดีของหนังสือเล่มนี้
1.เป็นหนังสือที่สอนมุมมองความคิดใหม่ๆในการดำเนินชีวิตของเรา
2. มีข้อคิดดีๆให้เราคิดตามตลอดทั้งเล่ม
3. ทำให้เราสามารถนำอดีตที่ผ่านมา มาเป็นข้อเตือนใจในการกระทำเรื่องต่างๆในปัจจุบัน
4. ช่วยเตือนให้เรากลับมาทบทวนวิธีคิดที่เรามีต่อสิ่งรอบข้างมากขึ้น
5. ทำให้ผู้อ่านเข้าใจชีวิตมากยิ่งขึ้นและเป็นกำลังใจให้คนที่ท้อแท้และหมดหวังในการดำเนินชีวิต
ข้อเสียของหนังสือเล่มนี้
1. บางครั้งข้อคิดบางเรื่องก็เป็นปรัชญามากเกินไป จนไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง
 2. น่าเบื่อสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองดำเนินชีวิตได้ดีไม่มีเรื่องอะไรให้กลุ้มใจ
 3. ความคิดในบางเรื่องอาจไม่ตรงกับคนอ่าน จนคนอ่านคิดว่าไม่น่าสนใจ

อ้างอิง
สันทัด  ขุนมุด. Return ย้อนสอนชีวิต. กรุงเทพมหานคร : ใยไหม, 2550.

จัดทำโดย:นางสาวชนากานต์ อินธิเดช  
รหัสนักศึกษา:5223400110